วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Discrete mathematics in Google Maps

       ทุกวันนี้เทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการใช้ชีวิตประจำวันซึ่งเทคโนโลยีช่วยในการอำนวยความสะดวกได้อย่างมาก อย่างเช่นการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ถ้าหากผู้เดินทางไม่รู้เส้นทางในการไปจุดหมายที่ต้องการไป ในปัจจุบันนี้ก็จะมีการใช้ GPS หรือแอพพลิเคชั่นที่ช่วยในการนำทาง

Related image


       ในที่นี้เราจะเจาะจงไปที่ บริการและแอพพลิเคชั่น Google Maps ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยในการนำทางและยังสามารถให้ Google Maps ช่วยในการคนหาเส้นทางที่ใกล้ที่สุด หรือหาเส้นทางที่ใช้ระยะเวลาเดินทางน้อยที่สุดอีกด้วย 



GOOGLE MAPS

Image result for Google Maps

       Google Maps ซึ่งเป็นบริการที่คิดค้นเเละพัฒนามาจากบริษัท Google Inc. เป็นบริการที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และเป็นที่นิยมเนื่องจากสามารถใช้บริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย แต่ทว่า ผู้คนที่ใช้บริการ Google Maps ส่วนใหญ่ ไม่ได้รู้ถึงหลักการทำงานหลักลำดับการคิดที่ใช้ในการประมวลผลของมันมากเท่าไหร่นัก ดังนั้นเราจึงจะกล่าวถึงหลักการทำงานและการประยุกต์ใช้ทฤษฎีจาก Discrete Mathematics มาใช้อธิบายประกอบกับหลักการทำงาน โดยในที่นี้ เราจะเน้นไปที่การหาระยะทางหรือเวลาที่ใช้ในการเดินทางที่สั้นที่สุดจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง


       ก่อนอื่นเมื่อเราเปิด Google Maps ขึ้นมาใช้ เราจะต้องพิมพ์เข้าไปที่ช่อง Search เพื่อหาสถานที่หรือตำแหน่งของที่ที่เราต้องการหา ในส่วนของ Search Algorithm ทางบริษัทของ Google ไม่ได้เปิดเผย Algorithm ที่ใช้ออกมาสู่สาธารณะ ถ้าหากเป็นการหาชื่อสถานที่ที่มีชื่อเฉพาะหรือของเชตแคบ ระบุได้ชัดเจนก็จะแสดงออกมาได้ง่ายๆเลย แต่ถ้าหากเราหาเป็นชื่ออย่างไม่เจาะจงสถานที่มาก เช่น ร้านอาหารตามสั่ง Googles Maps จะทำการเเสดง list ของรายการสถานที่จากที่ที่ใกล้ตำแหน่งที่เราอยู่ขึ้นมาก่อน ในส่วนนี้จะเป็นการใช้การ Sort แต่ก็อีกเช่นเคย ทาง Google ไม่ได้เปิดเผย Algorithm ที่ใช้ในการ Sort ออกสู่สาธารณะอีกเช่นกัน




       จากที่กล่าวถึงฟังก์ชั่นของ Google Maps ในตอนต้น ที่ใช้หาระยะทางหรือเวลาที่ใช้ในการเดินทางที่สั้นที่สุด หรือเรียกอีกอย่างคือการหา Shortest path โดยจากการศึกษา Google ใช้การหา shortest path จาก Dijkstra's Algorithm ซึ่งเป็น Algorithm ที่จะใช้หาเส้นทางที่สั้นที่สุด โดยสนใจแค่เป้าหมายเดียว โดยมีหลักการทำงานดังนี้



       ซึ่งนอกเหนือจากการทำงานที่ใช้หาระยะทางที่สั้นที่สุดหรือเวลาในการเดินทางน้อยที่สุดแล้ว ทาง Google Maps ยังมีฟังก์ชั่นที่เป็นการสร้างจัดหมายปลายทางหลายจุดได้ โดยสามารถเลือกให้ผ่านที่จุดที่ผู้ใช้เลือกไว้ได้ จากการศึกษาพบว่า มีการใช้หลักการคิดของ Hamilton's path ซึ่งคือการเดินทางผ่านครบทุกจุดโดยไม่ซ้ำจุดเดิม โดยใน Google Maps จะมีการประยุกต์เล็กน้อย โดยจะให้จุดเริ่มต้น ทางแยกบนถนน และ จุดจบ เป็น Nodes หรือจุดยอด และให้เส้นทางบนถนนเป็น Edges หรือเส้น 

       Image result for Multiple destination google maps


       จากที่กล่าวมานี้ ไม่เพียงเเค่ Google Maps เท่านั้น แต่ Discrete Mathematics สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหลายๆการใช้งานที่เป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการสร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นอื่น ๆ หรือการจัดการบริการต่าง ๆ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Proposal

Discrete Math Project -       Topic: Discrete in Google maps -       Statement: Reengineering เกี่ยวกับการทำงานของ...